Consultant

โรงงานแพนดอร่า แห่งใหม่นี้มีความพร้อมทั้งระบบสาธารณูปโภค ระบบบำบัดน้ำเสีย และการขนส่ง

แพนดอร่า โรงงานแห่งใหม่นี้มีความพร้อมทั้งระบบสาธารณูปโภคและการขนส่ง

pandora-logo

ชื่อของ "แพนดอร่า" หนึ่งในแบรนด์เครื่องประดับอัญมณีรายใหญ่ที่มีสร้อยข้อมือชาร์มเป็นสินค้าขึ้นชื่อ ได้ปลุกกระแสให้สาว ๆ ทั่วโลกสนุกกับการสะสมชาร์มมาร้อยบนสร้อยข้อมือให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งการตอบรับที่ดีของตลาด ทำให้ "แพนดอร่า" ต้องเตรียมตัวรับการเติบโต

โดยล่าสุดได้ลงทุนสร้างฐานการผลิตแห่งใหม่บนพื้นที่กว่า 45 ไร่ ในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ จังหวัดลำพูน ถือเป็นโรงงานแห่งที่ 2 ในไทย หลังจากเปิดโรงงานแรกที่นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี ที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2532 จนปัจจุบันมีช่างฝีมือมากกว่า 12,000 คน ผลิตชิ้นงานได้กว่า 122 ล้านชิ้นต่อปี

ตอกย้ำความสำคัญของไทยในฐานะฐานการผลิตหนึ่งเดียวของแพนดอร่ากรุ๊ป ที่วันนี้ส่งออกเครื่องประดับจิวเวลรี่ไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก มีจุดจำหน่ายทั้งของตัวเองและพาร์ตเนอร์รวมกันกว่า 8,100 จุดซึ่งอยู่ในไทยราว 25 แห่ง

"ความพร้อมในเรื่องแรงงานที่มีฝีมือประณีตและวัตถุดิบ ทำให้ไทยยังคงเป็นคำตอบที่ใช่ของแพนดอร่า" นีลส์ เฮแลนเดอร์ รองประธานอาวุโสสายงานการผลิตและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แพนดอร่า โพรดักชั่น จำกัด กล่าวพร้อมขยายความถึงฐานผลิตที่ลำพูนว่า

โรงงานแห่งใหม่นี้มีความพร้อมทั้งระบบสาธารณูปโภค ระบบบำบัดน้ำเสีย และการขนส่งที่สะดวก อยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ สามารถรองรับช่างฝีมือได้สูงสุดถึง 5,000 คน และพร้อมจะผลิตงานที่มีรายละเอียดซับซ้อนมากขึ้น ด้วยเครื่องจักรที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ช่วยให้ช่างใช้เวลาในการทำงานต่อชิ้นสั้นลง ออกแบบโรงงานให้มีบรรยากาศที่ดีต่อการทำงานของพนักงาน ลดการใช้พลังงานน้ำ-ไฟฟ้า รักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น

สินค้าที่ผลิตที่นี่ เริ่มจากสินค้าหลักอย่างสร้อยข้อมือชาร์ม ก่อนจะทยอยเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่มอื่น ๆ ตามมา

"สินค้าแพนดอร่าออกแบบโดยดีไซเนอร์จากสำนักงานใหญ่ที่เดนมาร์ก ส่งมาพัฒนาต่อในไทย ซึ่งจะมีสินค้าใหม่ ทุก 6-8 สัปดาห์ จากนี้มีนโยบายเพิ่มความหลากหลายของสินค้ามากขึ้น หลังจากที่เริ่มพัฒนาแหวน ต่างหู จี้ ฯลฯ เข้ามาเสริมแล้ว"

ส่วนฐานการผลิตเดิมที่กรุงเทพฯ อยู่ระหว่างปรับปรุงอาคารฝ่ายผลิตเดิมและก่อสร้างอาคารใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้แพนดอร่ามีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านชิ้นต่อปีภายในสิ้นปี 2562

การลงทุนเหล่านี้อยู่ในแผนขยายกำลังการผลิตในไทยช่วงปี 2558 - 2562 ภายใต้งบการลงทุนรวมกว่า 9 พันล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว จากความต้องการในตลาดที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิก ที่เติบโตดีจากการขยายตัวของกลุ่มชนชั้นกลาง อาทิ ในจีนที่เติบโตกว่า 175% มีจุดขายเพิ่มทุกสัปดาห์ในปีที่ผ่านมา

โดยคาดว่าจะมีรายได้จากภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 19% ส่วนหนึ่งจะมาจากการขยายสู่ตลาดใหม่ ๆ อาทิ อินเดีย ส่วนในตลาดอื่น ๆ อย่างยุโรป-ตะวันออกกลาง ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนกว่า 47% สหรัฐอเมริกา 34%

"สถานการณ์เศรษฐกิจไม่มีผลกับแพนดอร่า เพราะสินค้าอยู่ในราคาที่เข้าถึงได้"

จากจุดเริ่มต้นของธุรกิจเมื่อปี 2525 วันนี้แพนดอร่าเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ที่มีรายได้ในปีที่ผ่านมากว่า 1 แสนล้านบาท หรือ 20,300 ล้านโครนเดนมาร์ก เติบโตจากปีก่อนหน้า 21%

สำหรับปีนี้ ผู้บริหารแพนดอร่า โพรดักชั่นบอกว่า ตั้งเป้าการเติบโตไว้ไม่น้อยกว่า 10%

และความเคลื่อนไหวเหล่านี้คือส่วนหนึ่งในการรักษาแชมป์ผู้ผลิตและส่งออกอัญมณีรายใหญ่ของโลกไว้ในมือให้มั่นคง

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์